HIFU vs. MWA: เทคโนโลยีรักษามะเร็งแบบไม่ต้องผ่าตัด
มะเร็งเป็นหนึ่งในโรคร้ายแรงที่เกิดจากการเจริญเติบโตผิดปกติของเซลล์ที่ไม่สามารถควบคุมได้ และสามารถแพร่กระจายไปยังอวัยวะอื่น ๆ ได้ ปัจจัยเสี่ยงของมะเร็งรวมถึงพันธุกรรม พฤติกรรมการใช้ชีวิต เช่น การสูบบุหรี่ และการได้รับสารพิษต่าง ๆ ส่งผลให้มะเร็งเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้น ๆ ของโลก โดยองค์การอนามัยโลก (WHO) รายงานว่า มีผู้ป่วยมะเร็งรายใหม่กว่า 19.3 ล้านคนต่อปีทั่วโลก และในประเทศไทยพบผู้ป่วยใหม่มากกว่า 140,000 คนต่อปี มะเร็งที่พบมากที่สุดในไทยคือ มะเร็งตับ ปอด เต้านม และลำไส้ใหญ่
วิธีการรักษามะเร็งแบบดั้งเดิม
การรักษามะเร็งในปัจจุบันมีหลายแนวทาง ได้แก่ การผ่าตัด ซึ่งเป็นวิธีที่สามารถกำจัดเนื้องอกออกจากร่างกายได้โดยตรงแต่มีความเสี่ยงสูงและต้องพักฟื้นนาน การฉายรังสี ที่ใช้พลังงานรังสีเพื่อทำลายเซลล์มะเร็งแต่ก็อาจทำลายเนื้อเยื่อปกติรอบข้าง และเคมีบำบัด ที่ใช้ยาเพื่อหยุดการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งแต่มีผลข้างเคียงสูง
การรักษามะเร็งด้วยพลังงานความร้อน (Thermal Ablation)
เทคโนโลยีการใช้พลังงานความร้อนเพื่อทำลายเซลล์มะเร็งกำลังเป็นทางเลือกใหม่ที่ช่วยลดความจำเป็นในการผ่าตัด โดยงานวิจัยนี้นำเสนอเปรียบเทียบสองเทคนิคหลัก ได้แก่ High-Intensity Focused Ultrasound (HIFU) และ Microwave Ablation (MWA) ซึ่งกำลังได้รับความสนใจเป็นอย่างสูงดังแสดงในรูปที่ 1
HIFU ใช้คลื่นเสียงความถี่สูงโฟกัสพลังงานไปยังบริเวณเป้าหมาย ทำให้เกิดความร้อนสูงและทำลายเซลล์มะเร็งโดยไม่กระทบเนื้อเยื่อรอบข้าง ในขณะที่ MWA ใช้คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าเพื่อสร้างความร้อนและทำให้เซลล์มะเร็งตายไป โดยสามารถรักษาเนื้องอกขนาดใหญ่และรูปร่างไม่แน่นอนได้
(ก) HIFU: คลื่นเสียงอัลตราซาวด์โฟกัสที่เนื้องอก
(ข) MWA: คลื่นไมโครเวฟกระจายความร้อนรอบก้อนมะเร็ง
รูปที่ 1 แผนภาพแสดงการทำงานของ HIFU และ MWA (Wessapan et al., 2025)
แบบจำลองทางคณิตศาสตร์และผลการศึกษา
จากการศึกษาพบว่า HIFU และ MWA มีผลต่ออุณหภูมิของเนื้องอกแตกต่างกัน โดยใช้สมการการแพร่กระจายคลื่นเสียงและสนามแม่เหล็กไฟฟ้า ผลในงานวิจัยนี้พบว่า HIFU มีความสามารถในการทำลายเซลล์มะเร็งได้อย่างแม่นยำ โดยเน้นพลังงานไปยังจุดโฟกัสเล็ก ๆ ส่งผลกระทบต่อเนื้อเยื่อรอบข้างน้อย ในขณะที่ MWA มีประสิทธิภาพในการกระจายความร้อนในบริเวณที่กว้างขึ้น ทำให้สามารถรักษาเนื้องอกขนาดใหญ่หรือรูปร่างไม่แน่นอนได้ อย่างไรก็ตาม ความแตกต่างของการแพร่กระจายพลังงานทำให้แต่ละเทคนิคเหมาะกับเนื้องอกประเภทต่าง ๆ โดยมีปัจจัยอย่าง ความพรุนของเนื้อเยื่อและการไหลของของเหลวภายในเนื้องอก เป็นตัวแปรสำคัญที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพของการรักษา โดยผลจากการศึกษาดังรูปที่ 2 แสดงให้เห็นว่า HIFU ทำให้อุณหภูมิสูงเร็วแต่เฉพาะจุด ส่วน MWA อุณหภูมิจะกระจายเป็นบริเวณกว้าง
รูปที่ 2 การเปรียบเทียบอุณหภูมิที่เพิ่มขึ้นในการรักษาด้วย HIFU vs. MWA (Wessapan et al., 2025)
การเปรียบเทียบประสิทธิภาพ HIFU และ MWA
คุณสมบัติ | HIFU (คลื่นอัลตราซาวด์) | MWA (คลื่นไมโครเวฟ) |
พลังงานที่ใช้ | คลื่นเสียงอัลตราซาวด์ | คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าไมโครเวฟ |
รูปแบบความร้อน | จุดโฟกัสแคบ | กระจายเป็นบริเวณกว้าง |
ผลต่อเนื้อเยื่อรอบข้าง | น้อยกว่า | อาจส่งผลกระทบบ้าง |
เหมาะกับเนื้องอกชนิดใด | เล็ก-อยู่ลึก | ใหญ่-รูปร่างไม่แน่นอน |
สรุปและแนวโน้มในอนาคต
HIFU และ MWA เป็นเทคโนโลยีที่มีศักยภาพสูงสำหรับการรักษามะเร็งโดยไม่ต้องผ่าตัด โดย HIFU เหมาะสำหรับเนื้องอกที่ต้องการความแม่นยำสูง ส่วน MWA เหมาะกับเนื้องอกขนาดใหญ่ที่ต้องการการกระจายพลังงานความร้อนเป็นวงกว้าง ในอนาคต เทคโนโลยีนี้มีแนวโน้มที่จะพัฒนาให้สามารถใช้รักษาเนื้องอกที่ซับซ้อนมากขึ้น และลดผลข้างเคียงต่อเนื้อเยื่อปกติให้มากที่สุด
🔬 อนาคตของการรักษามะเร็งกำลังเปลี่ยนไป ด้วยเทคโนโลยีการรักษาด้วยความร้อนที่ไม่ต้องผ่าตัด! 🚀
อ้างอิงข้อมูลจากงานวิจัยล่าสุดในวารสาร International Journal of Thermofluids (2025, Q1 Scopus)
Wessapan, T., Keangin, P., Rattanadecho, P., and Somsuk, N. “Comparative analysis of heat transfer dynamics in high-intensity focused ultrasound and microwave ablation for cancer treatment”. International Journal of Thermofluids, Vol. 26, p.101090, 2025, Scopus, Q1.
โดย
ศ.ดร.ผดุงศักดิ์ รัตนเดโช
รศ.ดร.ธีรพจน์ เวศพันธุ์
ผศ.ดร.พรทิพย์ แก่งอินทร์
ผศ.ดร.นิศากร สมสุข